แต่ผู้ที่ช่วยให้ Line เคลื่อนไหวและมีสีสันอยู่ตลอดก็คือคุณ Bank ผู้ดูแลบอร์ด sem.or.th ของเราในอดีต
เขาเอายอดรายรับจาก GearBubble และ tips and tricks มาโพสท์ให้ดูบ่อยๆ จนสร้างความฮือฮาให้เพื่อนๆอยู่เสมอ
ผมเองเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ถนัดเรื่อง smartphone ก็เลยไม่ได้อยู่ใน LINE กลุ่ม
เป็นไปได้ไหมครับ ถ้าจะนำ tips and tricks ของคุณ Bank ที่เกี่ยวกับ Gearbubble
มาโพสต์ในห้องบ้าง ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้เข้า LINE กลุ่มนะครับ
เพิ่งกลับมาอ่านในบอร์ดอีกครั้ง ขอบคุณมากเลยนะครับทั้งอาจารย์ซุปและคุณ HCaine ที่สนใจ นี่คือขั้นตอนการทำงานแบบภาพรวมของผมที่ใช้ทำ GearBubble ครับ ซึ่งผมได้โฟสลงเฟสบุ๊คส่วนตัวไปด้วย
1. กำหนด Niche ที่จะทำขึ้นมา นิช (Niche) คือกลุ่มลูกค้าเราครับว่าเป็นใครยังไง คนกลุ่มไหน เช่นพนักงานออฟฟิศ คนรักสัตว์ - เป็นอะไรก็ว่าไป คนชอบออกกำลังกาย ฯลฯ นิชที่ดีต้องมีขนาดใหญ่หรือเป็นกลุ่มคนที่มีจำนวนมากๆ พูดง่ายๆมันคือขนาดตลาด และอีกอย่างต้องมีเงินมาจับจ่ายของฟุ่มเฟื่อยด้วย เพราะสินค้าทุกตัวใน GB (GearBubble) มันไม่ใช่ของจำเป็นในชีวิตประจำวันเลย
2. Product หลังจากเลือกนิชได้แล้ว มาดูกันว่าคนกลุ่มนี้เค้ามีความต้องการอะไร จากนั้นก็ทำสินค้าให้ตรงกับความต้องการของเค้า แหล่งวิจัยที่ผมใช้ประจำคือ Pinterest, Instagram และ Amazon ดูว่าอันไหนที่คนสนใจมากๆ ก็ดูจากยอด Pin, Like, Top Seller ครับ จากนั้นก็เซฟข้อมูลต่างๆลงเครื่อง
สินค้าที่ขายดีบน GB (GearBubble) อันดับหนึ่งคือสร้อยคอ รองลงมาคือแก้วน้ำ โดยประเภทที่ขายดีอันดับหนึ่งคือ Gift - ซื้อไปเป็นของขวัญให้แก่คนอื่น อันดับสองคือ Funny พวกตลกโป๊กฮาต่างๆ ตลกแบบฝรั่งนะครับ
3. ออกแบบ มือใหม่ที่ไม่มีความรู้ด้าน Photoshop หรือ Illustrator ก็คงต้องพึ่ง Freelance ละครับสามารถไปจ้างงานได้ที่ Upwork กับ Fiverr ครับ - ผมเคยลองจ้างงานไป 20 คน หมดเงินไปหมื่นนิดๆยังไม่เจอฟรีแลนซ์ที่ถูกใจเลยครับ ไม่ห่วยก็งานกลางๆประมาณว่าเราน่าจะทำเองได้ สุดท้ายผมลงเรียนคอร์สออนไลน์ทำโฟโตชอปง่ายๆ ค่าคอร์สแค่ไม่กี่พันเองแต่คุ้มมาก เพราะไม่ต้องเสียเงินจ้างฟรีแลนซ์อีกแล้ว (ยอดขายผมมากกว่า 80% มาจากงานที่ผมดีไซด์เอง โดยแบบงานที่ส่งขายเป็นของผมครึ่งหนึ่งฟรีแลนซ์ครึ่งหนึ่ง - ล่าสุดยอดขายมากกว่า 95% เป็นแบบที่ผมทำเองครับ)
อย่าจ้างฟรีแลนซ์คนบังกลาเทศเป็นอันขาดนะครับ โดยเฉพาะผู้ชาย ผมถือว่าผมเตือนละนะ งานห่วย ชอบมาขอทิปเพิ่ม ตื้อโดนการแมสเซสมาของานเราเป็นระยะ - ยังไงก็แนะนำให้หัดดีไซด์เองนะครับ เพราะไปจ้างฟรีแลนซ์มีโอกาสสูงที่จะได้ Template ซ้ำๆกับลูกค้าคนอื่น บางคนในบอร์ดนอกเจอข้อความซ้ำโหลๆกับคนอื่นอีก
4. เอางานที่ได้จากข้อ 3 อัพขึ้น GB เท่านี้ก็จะได้สินค้าพร้อมขายแล้ว โดยเขียน description ให้มันกระตุ้นการขายหน่อย ดูแบบอย่างได้จากกลุ่ม Best Seller ที่เราขายครับ ก็เอามาดัดแปลงเพิ่มนี้ผสมนู้นหน่อยเอา
5 การที่เราจะขายอะไรบนโลกออนไลน์ได้หลักๆมี 2 อย่างเลย คือ สินค้า + ลูกค้า นั้นคือสินค้าเราดีหรือไม่ ออกแบบมาดีรึเปล่า และคนที่เข้าหน้าเว็บเรามาตรงกับกลุ่มเป้าหมายเรารึเปล่า ถ้าสินค้าดีลูกค้าตรงกลุ่มเป้าหมายยังไงก็ขายได้ ถ้าขายไม่ได้แล้วตอบไม่ได้เพราะอะไรแสดงว่าข้อมูลน้อยไป ทำยังไงก็ได้ให้ได้ข้อมูลมาวิเคราะห์
6. No Traffic No Money หลักๆที่ผมทำคือ Paid Traffic นะครับ ใช้เงินต่อเงิน นั้นคือทำ Facebook Fanpage แล้วซื้อโฆษณาเอาครับ
Fanpage เราก็สร้างให้ตรงกับนิชที่เราเลือก แล้วผมจะโฟสวันละ 2 โฟสเพื่อไม่ให้เพจผมดูเงียบเหงา จากนั้นก็โฟสขายของแล้วซื้อโฆษณา โดยสินค้าหนึ่งตัวผมจะลองตั้งค่าโฆษณากับ Interest ต่างๆ งบวันละ $5/Interest (เพราะรายได้ผมเป็น us dollar ผมเลยตั้งค่าสกุลเงินให้เป็น us ด้วยครับ) ด้วยงบเท่านี้ 2 วันผมค่อยเข้ามาดูที อันไหนคนไม่ค่อยสนใจ Engagement ต่ำ ก็ตัดออก อันไหนขายไม่ได้ก็ตัด ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆครับ เพื่อหา Winning Ads คือตัวที่ทำยอดขายให้เรา - ซึ่งถ้าเจอก็ให้เพิ่มงบโฆษณาอัดเข้าไปอีก แล้วแตกรายละเอียดต่างๆลงไปอีก เช่นตอนแรกทำโฆษณาคนอายุ 20-40 อาจจะแตกเป็น 2 ช่วงอายุ 20-30 กับ 30-40
เอาข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ตลอดขายไม่ได้เพราะอะไร เพราะสินค้าหรือลูกค้า ถ้าวิเคราะห์ไม่ได้ก็ต้องรันแอดต่อไป ให้คิดว่าลงทุนซื้อข้อมูลละกันครับ ผมหมดเงินไปหมื่นต้นๆกว่าจะหา Winning Ads เจอ ที่สามารถทำยอดขายให้ผมเป็นประจำได้
- หลักๆก็จะประมาณนี้ครับ จะรวยหรือจนก็ขั้นตอนที่ 6 เลยครับ ถ้ารันแอดแล้วขายไม่ออกเงินมันก็หายจากกระเป๋าไปเรื่อยๆครับ ถ้าเจอก็โชคดีด้วยครับ
- สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆเลยคือ Mind Set ครับ (ขอยกที่อาจารย์ซุปเคยบอกมานะครับ) การทำ PPC (Pay Per Click) ไม่ว่า Google Adword หรือ FB Ads ใจต้องนิ่ง ไม่หวั่นไหว และต้องมุ่งมั่นมาก เรื่อง Mindset จึงสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการหา สินค้า คีย์เวิร์ดและ กลุ่มเป้าหมาย ถ้าใจไม่นิ่ง เสียเงินแล้วสะทกสะท้าน มักจะไปไม่ถึงเป้าหมาย ล่าถอยเสียก่อน
แต่ละขั้นตอนก็จะมีส่วนยิบย่อยลงไปอีก วันนี้ผมขอลงภาพใหญ่ก่อนนะครับ