หลังเปิดตัวโครงการ dtac Accelerate จัดประกวดผลงานโมบายแอปพลิเคชั่น Wizard of App "ดีแทค" เตรียมจัดเวิร์กช็อปให้ทีมนักพัฒนาไทยที่ผ่านการคัดเลือก 20 ทีม โดยเชิญ 2 กูรูระดับโลก อดีตผู้กุมบังเหียน "แอปเปิลสโตร์ และกูเกิลเพลย์สโตร์" มาติวเข้มให้โดยเฉพาะ เกี่ยวกับกลเม็ดเคล็ดลับในการพัฒนาแอปให้โดนใจตลาด (โลก)
"ประชาชาติธุรกิจ" มีโอกาสพูดคุยกับทั้ง "แม็ต มันเดย์" (แอปเปิลสโตร์) และ พอล แจ๊สเตอร์เซบสกี้" (กูเกิลเพลย์) ดังนี้
- อะไรคือจุดเด่นและจุดด้อยของแอปสโตร์และกูเกิลเพลย์
แม็ต : จุดอ่อนใหญ่ของแอปสโตร์คือ ต้องใช้เวลานานในการอนุมัติแอปแต่ละตัว มีการควบคุมเยอะ แต่เรื่องนี้ก็เป็นจุดแข็งด้วยเช่นกัน เพราะทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าแอปแต่ละตัวเชื่อถือได้ มีความปลอดภัย เข้าถึงคนได้เป็นจำนวนมาก และทำเงินให้นักพัฒนาได้เป็นจำนวนมาก ปัจจุบันนี้แอปเปิลจ่ายเงินให้นักพัฒนาไปกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
พอล : จุดแข็งของกูเกิลเพลย์คือ การพัฒนาแอปเกมขึ้นมาสักเกม นักพัฒนาจะควบคุมได้ทั้งกระบวนการ และเปลี่ยนแปลงคอนเทนต์หรือแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้รวดเร็ว เพราะสามารถนำเสียงตอบรับจากผู้ใช้มาแก้ไขแอปได้ทันที จุดนี้ไอโอเอสทำไม่ได้เพราะนักพัฒนาต้องรอการอนุมัติ
จุดด้อยของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์คือ มีอุปกรณ์มือถือที่รองรับหลากหลายมาก ตั้งแต่เครื่องไฮเอนด์ไปจนถึงระดับล่างและมีหลายขนาด ทำให้ประสบการณ์ใช้งานแตกต่างกัน ถือเป็นจุดแข็งได้เพราะทำให้ผู้พัฒนาเข้าถึงตลาดกว้างกว่าด้วย
- มีวิธีการเลือกแอปขึ้นหน้าแรกอย่างไร
แม็ต : จะมีการอัพเดตทุกวันพฤหัสบดี หากนับรวมกระบวนการเลือกแอปขึ้นหน้าหนึ่งกินเวลาทั้งหมด 3-4 สัปดาห์ โดยทีมงานจะหาจากแอปใหม่เอี่ยมที่เข้ามาโดยมีทีมบิสซิเนสดีเวลอปเมนต์ออกไปดูข่าว ดูโมเดลธุรกิจ และการทำตลาด ส่วนทีมดีเวลอปเปอร์รีเลชั่นจะติดต่อคุยกับนักพัฒนา เมื่อทั้งสองทีมตรวจสอบว่าแอปน่าสนใจมีความเสถียรในการใช้งาน มีคนพูดถึงก็จะส่งให้แอปเปิลเอดิทอเรียลทีมเลือก
สิ่งสำคัญคือนักพัฒนาต้องตั้งใจทำแอปออกมาให้ดีที่สุด อย่ามองเป็นแค่อีกช่องทางหนึ่งในการเข้าเว็บไซต์ แต่เป็นซอฟต์แวร์ที่ต้องทำให้ดีตั้งแต่วันแรก เพราะโอกาสเพียงครั้งเดียวที่จะได้รับการเหลียวแลจากทีมคัดเลือกของแอปเปิล หากพลาดไปเขาก็จะไม่หันกลับมามองอีก
พอล : แอนดรอยด์มีกระบวนการคัดเลือกเหมือนแอปเปิล มีการอัพเดตอาทิตย์ละครั้ง แบ่งเป็นสามทีมช่วยคัดเลือก ส่วนตัวมองว่าวิธีการคัดเลือกแอปขึ้นหน้าแรกของทุกระบบปฏิบัติการน่าจะใช้ขั้นตอนแบบเดียวกันนี้
- แอปที่ประสบความสำเร็จมักมีอะไรเหมือนกัน
แม็ต : ส่วนใหญ่เป็นเรื่องการทำของใหม่ สร้างนวัตกรรม คิดนอกกรอบให้แตกต่างไปจากเดิม แต่ขณะเดียวกันต้องทำให้ใช้งานง่ายและมีรูปลักษณ์การดีไซน์ที่ดีต้องมีคุณลักษณะพิเศษในแอปที่ทำให้ผู้ใช้ประทับใจและกลับมาใช้งานอีก ซึ่งจะเป็นเรื่องของการลงรายละเอียดเล็ก ๆ
น้อย ๆ ที่นักพัฒนาต้องกลั่นกรองความคิดมาอย่างหนัก เช่น แอปโซเชียลเน็ตเวิร์ก Path ที่ออกแบบยูสเซอร์อินเทอร์เฟสให้เชื่อมโยงกันเป็นรูปดอกไม้ เป็นต้น
พอล : สำหรับแอปเกม จุดสำคัญที่จะประสบความสำเร็จได้คือ การปรับให้เกมมีรูปแบบการควบคุมด้วยหน้าจอสัมผัสที่ดี สังเกตได้จากเกมที่ประสบความสำเร็จอย่าง Angry Birds และ Fruit Ninja ที่ต่างก็ทำให้ผู้เล่นสนุกกับการใช้หน้าจอสัมผัส ดังนั้นนักพัฒนาต้องเริ่มต้นการออกแบบโดยนำฟังก์ชั่นสั่งการด้วยหน้าจอสัมผัสเป็นจุดศูนย์กลาง คุณไม่ต้องการที่จะนำวิธีบังคับแบบจอยสติ๊กมาใช้กับเกมบนมือถือแน่นอนเพราะมันไม่เป็นธรรมชาติ
- จุดอ่อนที่เห็นจากนักพัฒนาแอปทั่วโลก
แม็ต : จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดคือ เรื่องการทำตลาดและการขยายช่องทางเข้าถึงผู้บริโภค เนื่องจากนักพัฒนามักเน้นทำแอปของตนอย่างเดียว นักพัฒนาที่อยู่นอกสหรัฐมักไม่มีเครือข่ายหรือรู้จักกับสื่อในตลาดสหรัฐเลย เรื่องนี้หากคนมีความรู้ก็ทำได้ง่าย แต่หากไม่มีความรู้ก็ยาก
อีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่องกำแพงภาษา เพราะแอปสำหรับประเทศต่าง ๆ ต้องทำให้ไม่ผิดความหมาย และเป็นภาษาพูดที่เหมาะสมกับตลาดประเทศนั้น ๆ
พอล : การทำให้ผู้บริโภคหาแอปพลิเคชั่นให้เจอถือเป็นความท้าทายอย่างมาก เพราะมีนักพัฒนาส่งแอปมาจากทั่วโลก ของดีมีเป็นจำนวนมากแต่คนหาไม่เจอ นักพัฒนาบางคนคิดว่า ตั้งทีมพัฒนาแอปแค่ 3-5 คนพัฒนา แล้วให้ผู้จัดจำหน่ายเอาไปใส่ไว้ในแอปสโตร์ก็จะประสบความสำเร็จ แต่ความจริงไม่ง่ายอย่างนั้น นักพัฒนาต้องคิดวิธีทำให้ผู้บริโภคเจอแอปของเขาด้วย
นอกจากนี้ หากพูดถึงแอปเกมในตลาดแต่ละประเทศจะมีความชอบแตกต่างกันไป สิ่งที่ท้าทายเป็นการทำเกมเพื่อให้สามารถรองรับตลาดทั่วโลกได้ เรื่องนี้เป็นเหมือนศิลปะ เพราะต้องดูถึงรายละเอียดเรื่องสีและรสนิยมต่าง ๆ ของผู้เล่นเกมในแต่ละพื้นที่ หากไม่มีประสบการณ์ทำเกมสำหรับตลาดระดับโลกมาก่อนก็จะยิ่งยาก
ปัจจุบันแอปเกมยึดมูลค่าในตลาดแอปมากกว่า 50% แม้ในอนาคตแอปประเภทอื่นจะมีบทบาทเพิ่มขึ้น แต่เกมก็ยังมีสัดส่วนหลักแน่นอน เพราะเด็กสองขวบหรือผู้สูงอายุก็เล่นเกมบนมือถือได้ ตลาดเกมมือถือจึงมีการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง มีโอกาสสูงมาก แต่มีการแข่งขันสูงมากเช่นกัน
- ต้องการสอนอะไรให้นักพัฒนาไทย
แม็ต : ผมจะพาเข้าสู่กระบวนการพัฒนาแอปตั้งแต่การคิดไอเดีย, การออกแบบ, การวางแผนตลาด, การเปิดตัวไปจนถึงทำให้แอปอยู่ต่อไปได้ในระยะยาว
นักพัฒนาต้องมีความรู้ด้านเทคนิค มีความทะเยอทะยาน และมีความเห็นอกเห็นใจลูกค้า จุดสำคัญนักพัฒนาต้องไม่มองแอปแค่ว่าเป็นซอฟต์แวร์ตัวหนึ่ง แต่ให้มองเป็นธุรกิจ และต้องหาทีมงานที่ดี มีผู้ร่วมก่อตั้งที่มีความถนัดกันละด้านเพื่อช่วยเสริมกัน
นักพัฒนายังต้องทำแอปออกมาให้ดูดีด้วยการมีคนออกแบบที่ยอดเยี่ยม ต่อให้งบประมาณการพัฒนาไม่เพียงพอก็จำเป็นต้องเจียดมาเพื่อจ้างดีไซเนอร์ และต้องทำการตลาดล่วงหน้าก่อนการเปิดตัวเป็นเวลาหลายเดือน นอกจากนี้คุณอาจยกจุดยืนเรื่องที่ว่าคุณเป็นนักพัฒนาชาวไทยขึ้นมาเป็นจุดขายได้ แม้ยังไม่มีเครดิตก็ไม่เป็นไร แค่ทำแอปออกมาให้ดีก็พอ เพราะทุกคนเริ่มจากจุดเล็ก ๆ ด้วยกันทั้งนั้น
พอล : ผมจะนำประสบการณ์ทำงานกับเอ็นวีเดียและกูเกิลเพลย์มาเล่าให้ฟัง ยกตัวอย่างแอปเกมที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว เพื่อให้นักพัฒนาไทยได้รู้ว่าอะไรเวิร์กอะไรไม่เวิร์ก รวมถึงทำให้รู้ว่านักพัฒนาแอปสามารถแข่งกับใครก็ได้ทั่วโลก ถึงจะเป็นทีมเล็ก ๆ ก็ทำสิ่งยิ่งใหญ่ได้
ที่สำคัญคือนักพัฒนาต้องกล้าเสี่ยง เพราะคนที่ประสบความสำเร็จส่วนมากมาจากการกล้าเสี่ยงทำสิ่งใหม่ ๆ แม้หลายแอปอาจล้มเหลว แต่บางตัวอาจประสบความสำเร็จ เพราะต้นทุนการพัฒนาเกมบนมือถือน้อยอยู่แล้ว