(ย่อจาก e-book เก่า)Email Marketing วัตถุโบราณที่ยังใช้การได้ดี email marketing มีมานานกว่าสิบปี มีมาก่อน adwords ก่อน facebook ก่อน youtube นับเป็นแนวทางการตลาดผ่านอินเทอร์เน็ตแบบแรกๆ
ขณะที่บางแนวทางเกิดขึ้นแล้วดับไป email marketing ยังคงอยู่ และยังมีนักการตลาดใช้กันอยู่ตราบจนทุกวันนี้
แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าบางคนใช้เป็น บางคนใช้ไม่เป็น
แนวทางที่ถูกต้องของ email marketing คืออะไรกันแน่ ? email marketing ที่ดีต้องไม่ใช่การ spam
ไม่ใช่การยัดเยียดให้ซื้อโดยลูกค้าไม่เต็มใจซื้อ
ไม่ใช่การประเดประดังโฆษณาเข้าใส่ mail box ของลูกค้าโดยที่เขาไม่เคยเปิดอ่าน
อันนั้นไม่ใช่แน่
ขณะที่นักทำ email marketing กลุ่มหนึ่งทำแล้วไม่เคยบรรลุผลอะไรเลย มีแต่ความว่างเปล่า หรือไม่ก็ได้อัตรา conversion ที่ต่ำมากจนไม่คุ้มกับเวลาและพลังงานที่ทุ่มเทลงไป
ยังมีนักการตลาดกลุ่มเล็กๆอีกกลุ่มหนึ่งที่ ปฏิบัติแล้วได้ผลตอบแทนมากมายมหาศาล เกินเงินที่ลงทุนไปหลายสิบหลายร้อยเท่า
ผู้ปฏิบัติถูกวิธียืนยันว่า email marketing คือ วิธีที่มั่นคง แน่นอน ไม่ต้องกังวลกับการเปลี่ยน algorithm ของ Google หรือการแย่งกันบิดเพื่อแย่งโฆษณาผ่าน adwords ด้วยราคาที่แพงหูดับตับไหม้
ประโยชน์ของ email marketing1) เห็นผลทันตา ถ้าเราวางแผนมาดีพอ เราจะเห็นผลตอบรับจากลูกค้าแทบจะทันที
2) ต้นทุนต่ำมาก เมื่อเทียบกับการทำ adwords
3) ไม่ต้องสร้าง content เอง เหมือน article marketing หรือ video marketing
4) ถ้าทำอย่างมีจริยธรรม ไม่เคลือบแฝงด้วยการหลอกลวงและเล่ห์กล อัตรา conversion จะสูงมาก การทำ internet marketing วิธีอื่นอาจได้อัตรา conversion 1-5% แต่ email marketing คุณอาจทำได้ถึง 15-30%,
Spam คืออะไร?อีเมลที่มาเองโดยไม่ได้รับคำเชิญ คือ spam
แต่อีเมลที่ลูกค้าเชิญเรามาด้วยความเต็มใจ ไม่ใช่ spam
Spamคือ วิธี Black Hat ที่คิดสั้น และผลตอบแทนก็สั้นด้วย
นักทำ email marketing ที่คิดสั้นๆจะใช้วิธีซื้อรายชื่ออีเมลที่อาจได้มาด้วยวิธีไม่สะอาด แล้วส่งอีเมลออกไปทีละหลายๆพัน ด้วยความหวังว่าหนึ่งในจำนวนคนที่ได้รับจะตัดสินใจซื้อ แต่ส่วนมากเขาจะไม่ซื้อหรอก
การปฏิบัติเยี่ยงนี้มีความเสี่ยงที่จะโดนแบนจากผู้ให้บริการอีเมล เช่น hotmail, gmail, yahoo และนี่จะไม่ใช่วิธีที่เราจะเรียนรู้กันในวันนี้
Opt-in E-Mail Marketing นี่คือวิธีที่ผู้รับเขาเต็มใจรับ เราไม่ได้ยัดเยียด ผู้รับจะสั่งให้เราหยุดส่งอีเมล (unsubscribe) วันไหนก็ได้
ซึ่งต่างจาก spam ที่เราบอกให้คนส่งหยุดการกระทำที่ไม่สะอาดแบบนี้ไม่ได้ ถ้ามันอยากส่ง มันก็ยังระดมส่งเข้ามา โดยที่เราไม่ได้เชื้อเชิญ มันเป็นการบุกรุกเข้ามาในบ้านเราเองเยี่ยงโจรผู้ร้าย
email marketing แบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลักๆ
1. "Unsolicited Bulk Email" (อีเมลที่ลูกค้าไม่ได้เชิญ หรือ spam)
2. "Opt-in" Direct Email (เขาเชิญเรามาเอง)
SPAM อย่าทำมันเลย
เรามาสนใจแบบที่สองคือ "Opt-In" Direct Email กันดีกว่า
"Opt-In" Direct Email คือ การส่งอีเมลที่ผู้รับยินดี เต็มใจ และอนุญาตให้เราส่งอีเมลเข้าไป ไม่ใช่การบุกรุก ไม่ใช่การละเมิดสิทธิ์ผู้อื่น
แล้วเราจะทำอย่างไรให้เขาอนุญาตให้ส่งอีเมลเข้าไป ?
ถ้าใครทำ article marketing มานานๆ จะพบว่ามีคนทำ article marketing จำนวนมากไม่ได้ส่งลูกค้าไปที่หน้า sales page แต่ส่งไปที่หน้า opt-in หรือแบบฟอร์มขออนุญาตให้ส่งอีเมล โดยการแลกเปลี่ยนกับสิ่งตอบแทนอะไรบางอย่าง
ส่วนมากจะเป็น free e-book บางทีอาจจะเป็น free video หรือ free software ก็ได้
เราเรียนรู้เรื่อง PLR มาสักพักหนึ่ง คงรู้ดีว่าสินค้าพวกนี้เราหาซื้อมาได้ด้วยราคาถูกมาก และเราสามารถเอามาตกแต่งให้มันดูสีสัน มีราคา แต่ต้นทุนที่แท้จริงอาจจะแค่ 2 เหรียญ หรือ 0
เราแจกเขาไปสัก 3000 ครั้ง ต้นทุนก็ยังแค่ 2 เหรียญเท่าเดิม
การสร้าง Squeeze Page หรือ Opt-In Page หน้า squeeze page มักจะเป็นเว็บเพจหน้าเดียว มีจุดหมายเดียวคือ เก็บเบอร์อีเมลลูกค้า หรือเรียกเท่ๆหน่อยว่า leads
หน้าตาของ squeeze page จะต้องไม่รกรุงรังด้วยลิงค์ จะต้องไม่เสนอขายสินค้าตัวอื่นๆ
ถ้าใส่โน่นใส่นี่เข้าไปเยอะแยะ ใส่ adsense ใส่ลิงค์ขายสินค้า clickbank ใส่ลิงค์ขาย amazon เข้าไป อย่างนี้ผิดเป้าหมายอย่างจัง
เรื่องเงินเรื่องทองนั้นใครๆก็อยากได้
แต่เรายังไม่เอาเงินวันนี้ เราจะเอาวันอื่น ดูตัวอย่าง squeeze page ที่แสดงไว้ ทั้งหน้ามีข้อความสั้นๆแค่นั้นเอง เป้าหมายของ squeeze page คือเก็บเบอร์อีเมล ไม่ใช่ขายของ
ทำไมผู้แทนราษฎรถึงยอมลงทุนไปเป็นเจ้าภาพงานบวช งานศพ งานโกนผมไฟ งานล้างป่าช้า ชาวบ้านเชิญมาเถอะ สอสอไปหมด
เขากำลังเก็บ leads ครับ เขากำลังสร้าง list เหมือนกัน
เขายอมเสียวันนี้ เพื่อจะได้ในวันหน้า
พอถึงวันเลือกตั้ง ชาวบ้านยังจำเขาได้ว่า ไอ้คนนี้แหละที่มันมาเป็นเจ้าภาพในงานบวชไอ้หนุ่ยลูกชายเรา เอ้า ช่วยไปลงคะแนนเสียงให้มันหน่อย
นี่แหละครับคือการสร้าง leads
ต้องเป็นฝ่ายให้ก่อน เพื่อรอเก็บผลประโยชน์ในวันหน้า
ซึ่งต่างจากการตลาดแบบอื่นๆ ที่แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันทันที หมูไปไก่มา
แบบนั้นมันก็เหมือนหัวคะแนนไปเดินแจกเงินทีละบ้านก่อนวันเลือกตั้ง บ้านนี้ลงคะแนนเสียงได้ 3 คน เอาไปสองพัน (สอสอให้มาแจกหัวละ 1000 หัวคะแนนชักไว้ก่อนหัวละ 300)
แบบนี้คือการซื้อมาขายไป แลกเปลี่ยนทันที ไม่ใช่ list building
แต่ใครจะหากินได้ยั่งยืนกว่า
ผมว่าสอสอที่ลงทุนไปเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานโน้นงานนี้มาเป็นปีๆ ลูกใครเข้าโรงเรียนไม่ได้ ข้าฝากให้ ลูกใครโดนตำรวจจับ ไม่มีใครไปประกัน ข้าไปประกันให้ ไอ้คนนี้แหละจะเป็นสอสอได้นานกว่า
นี่คือ relationship marketing นี่คือแนวทางเดียวกับที่นักการตลาดเอามาใช้ทำ email marketing
เราต้องเป็นฝ่ายให้ก่อน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้เกิดขึ้นก่อน ค่อยเป็นฝ่ายรับผลประโยชน์ทีหลัง
อย่าใส่ลิงค์อื่นใดบนหน้า squeeze page ยกเว้นลิงค์ที่จะไปสู่การเก็บเบอร์อีเมลเท่านั้น
นักการตลาดออนไลน์ระดับบิ๊กๆ ทุกคนยืนยันว่ามันให้ผลตอบแทนสูงสุด แทบจะไม่มีขาใหญ่คนไหนที่ไม่ใช้ email marketing
ถ้าเราจะยืนอยู่ในวงการนี้นานๆ ก็สมควรที่เราจะต้องทำความเข้าใจมันไว้ จะใช้หรือไม่ใช้ ก็ขอให้เรารู้ทันเขาไว้ก่อน