มือถือ-สมาร์ทโฟน แท้จริงแล้วมันก็คือ คอมพิวเตอร์ที่โทรศัพท์ได้ ถ้าอย่างนั้น อาการที่คอมพิวเตอร์แน่นิ่งไม่ตอบสนองผู้ใช้ หรือที่เรียกว่า “แฮงค์” ได้ อาการลักษณะเดียวกันนี้ก็น่าจะเกิดขึ้นกับสมาร์ทโฟนได้เหมือนกัน
ก่อนหน้านั้นซียังเคยได้ยินมาอีกว่า การที่ทีวีไม่ยอมใช้ชิปคอมพิวเตอร์เพื่อทำงานเป็นสมาร์ททีวีอย่างทุกวันนี้ ก็เพราะผู้ผลิตกลัวว่าทีวีของเขาจะแฮงค์ นอกเหนือจากการที่ผู้ใช้ต้องรอบู๊ททีวีด้วย OMG!!! กลับมาที่ประเด็นของเราดีกว่าค่ะ ปัญหามือถือ หรือสมาร์ทโฟน Android แฮงค์ แน่นอนว่า นอกจากเสียอารมณ์แล้ว ยังเสียเวลารอรีเซทเครื่องอีกด้วย สาเหตุหลักๆ ที่ผู้ใช้หลายคนที่ประสบปัญหาเครื่องค้าง หรือมือถือแฮงค์ซ้ำซากก็คือ ข้อผิดพลาดในการทำงาน (bug) หรือไม่ก็ไวรัส (virus) พอรู้สาเหตุแล้ว คำถามคือ แล้วทำไงต่อดีล่ะ?
คาดว่าไม่บั๊ก ก็ไวรัสที่ทำให้มือถือฉันแฮงค์
ถ้าเพื่อนๆ สงสัยว่า การที่มือถือที่ใช้งานอยู่ดีๆ มีอาการแฮงค์บ่อยขึ้นมาซะงั้น น่าจะมาจากบั๊ก หรือไวรัส ขั้นแรกของการแก้ปัญหาก็คือ ให้คุณ”ลบแอพฯตัวใหม่ๆ” ที่เพิ่งดาวน์โหลดมาออกไปทีละตัว (ไล่จากตัวล่าสุดที่เริ่มพบว่า มือถือมีอาการแปลกๆ) แล้วสังเกตว่า มือถือของคุณยังคงมีอาการแฮงค์รายวัน หรือไม่ ถ้าลบแอพตัวใหม่ๆ จนเกลี้ยงแล้ว สมาร์ทโฟนของคุณก็ยังขยันแฮงค์อยู่เหมือนเดิม มีโอกาสเป็นไปได้อย่างสูงว่า มือถือของคุณติดไวรัสเข้าไปแล้ว (ประเด็นนี้ สมาร์ทโฟน Andoid จะเสี่ยงติดไวรัสมากกว่า iPhone ค่ะ) อย่างไรก็ตาม อาการติดไวรัสบนมือถือมักจะแสดงออกมาให้เห็นในลักษณะที่เครื่องทำงานช้าลง แตะหนืดๆ หรือไม่ก็ขยันแฮงค์ รีเซททีก็เร็วที สักพักไม่ช้าอึด ก็แฮงค์ซะงั้น ถ้าเจออาการอย่างนี้ วิธีง่ายสุดก็คือ สั่งรีเซทเครื่องให้อยู่ในสถานะเหมือนเครื่องใหม่ที่เพิ่งออกมาจากโรงงาน (factory reset) โดยสำหรับสมาร์ทโฟน Android ให้แตะไอคอน Settings ตามด้วยเลือกคำสั่ง Backup เพื่อสำรองข้อมูลก่อน แล้วเลือก Reset ตามด้วย Factory Data Reset ทั้งนี้การเข้าถึงคำสั่งเหล่านีในมือถือจะแตกต่างกันไปตามรุ่น และแบรนด์มือถือของผู้ผลิต ดังนั้น ถ้าไม่มั่นใจให้คลิกเข้าไปดูในเว็บไซต์ของผู้ผลิตค่ะ
แต่ก่อนรีเซตมือถือ แบคอัพก่อนนะคะ!!!
ก่อนที่เพื่อนๆ จะแก้ปัญหาด้วยการรีเซท คุณควรจะแน่ใจก่อนว่า ได้สำรองข้อมูลสำคัญๆ ในมือถือออกมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรายชื่อผู้ติดต่อ (contacts) SMS ภาพถ่ายสุดเลิฟ ไฟล์ภาพ และไฟล์เสียงต่างๆ ซึ่งคุณสามารถแบ็คอัพข้อมูลจากมือถือเข้าไปไว้ในพีซีผ่านโปรแกรม อย่างถ้าเป็นมือถือซัมซุงก็ใช้Samsung Kies หรือแบคอัพไร้สายผ่าน Wi-Fi โดยใช้แอพอย่าง Air Droid ค่ะ แต่ถ้าข้อมูลเยอะมาก เชื่อมต่อด้วยสายเคเบิลจะเร็วกกว่าค่ะ การที่ซีแนะนำให้แบคอัพเข้าพีซีของคุณด้วยนั้น ก็เพราะว่า บางทีคอนแท็คต่างๆ อาจจะไม่ถูกซิงค์จะด้วยเหตุผลประการใดก็ตามก่อนที่คุณจะทำการรีเซทเครื่อง ซึ่งข้อมูลจะหายหมด จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ค่ะ ถ้าไม่มีสำรองข้อมูลไว้ในเครื่องด้วย
แต่ถ้าไม่ใช่ทั้งบั๊ก และไวรัสล่ะ?
เรื่องยังไมจบนะคะ เพราะถ้าหากลบแอพใหม่ๆ ที่คิดว่าเป็นปัญหาก็แล้ว รีเซ็ทมือถือก็แล้ว แต่เครื่องก็ยังคงหนืดๆ และยังคงแฮงค์ไม่เลิก บางทีอาจจะเป็นช้อผิดพลาดในเฟิร์มแวร์ (ชุดคำสั่งที่ทำงานอยู่ในชิปบนมือถือ) ซึ่งเรามักจะได้ยินว่า หลังจากอัพเดทเฟิร์มแวร์แล้ว มือถือมันมีปัญหา โดยเฉพาะอาการแฮงค์ อันนี้ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งค่ะ ที่อาจเกิดขึ้นกับมือถือของเรา วิธีคือ ย้อนกลับไปใช้เฟิร์มแวร์เวอร์ชันเก่า ถ้าเป็นมือถือ Android ของ Samsung สามารถเข้าไปดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ตัวเก่าได้บนเว็บไซต์ของทางบริษัทค่ะ สำหรับเรื่องที่นำมาเล่าให้ฟังนี้จะเป็นการ”แก้ไข”มือถือที่แฮงค์ โดยมีสาเหตุมาจากซอฟต์แวร์ (แอพที่โค้ดไม่ดีมีบั๊ก ไวรัส หรือบั๊กในโอเอส) แต่ถ้าให้ดีควรป้องกันด้วยการติดตั้งแอนตี้ไวรัสบนมือถือ หรือไม่ก็หลีกเลี่ยงการลงแอพฯที่อยู่นอก Google Play หรือแอพสโตร์ที่ไม่น่าเชื่อถือค่ะ อ้อ…อีกประเด็นหนึ่งเกือบลืมไป ถ้ามือถือแฮงค์บ่อยหลังจากทำเครื่องตกกระแทกพื้นมานับครั้งไม่ถ้วน แล้วลองพยายามแก้ไขตามที่แนะนำข้างต้นแล้วยังไม่หาย กรณีนี้ก็เปลี่ยนเครื่องใหม่อาจจะง่ายกว่าค่ะ
ซ่อมมือถือ “แฮงค์”ทำไงดีจ๊ะ? ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=sYntSJn61LM
